หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco)

จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco)
ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ในบริเวณจัตุรัสจะมีร้านค้าและร้านอาหารไว้
คอยบริการมากมาย รอบๆ จัตุรัสมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และหอนาฬิกา
 หอระฆัง (Campanile) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเวนิส นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปข้างบนเพื่อชมวิวของเมืองและลำน้ำได้ หอระฆังแห่งนี้เป็นที่ที่กาลิเลโอเคยทำการสาธิตกล้องส่องทางไกลของเขา เดิมทีหอนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ช่วยเหลือนักเดินเรือในตอนกลางคืน แต่ในยุคกลางกลับถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ อย่างไรก็ตาม หอระฆังแห่งนี้เคยพังทลายลงในปี ค.ศ. 1902 และได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยเสร็จสมบูรณ์ในปี 1912 เปิดให้ขึ้นไปชมวิวเมืองได้ทุกวัน โดยเวลาที่เปิดจะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยในฤดูร้อนเปิดตั้งแต่เวลา 9.00 - 19.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 5.20 ยูโร

วังดูคาเลเป็นที่พักของผู้ปกครองเวนิส ซึ่งเรียกว่า Doge ถูกก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 แต่ได้รับการตกแต่งและก่อสร้างเพิ่มเติมหลายครั้ง รูปโฉมด้านนอกในปัจจุบันเป็นผลงานจากศตวรรษที่ 19 เป็นศิลปะแบบโกธิค ได้รับการตกแต่งด้วยหินอ่อนสีชมพูจากเมืองเวโรน่า ภายในตกแต่งด้วยศิลปะหลายยุคสมัย แบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมาย ประดับไว้ด้วยภาพวาดโดยศิลปินเวนิสหลายราย นอกจากนี้ยังมีห้องทรมานนักโทษ และทางออกไปยังสะพานแห่งการทอดถอนใจซึ่งเชื่อมไปยังคุก ว่ากันว่านักรักคาสโนว่าเคยถูกกักขังไว้ที่นี่ และสามารถหลบหนี ออกมาได้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 - 19.00 น. (ในช่วงฤดูร้อน) และ
9.00 - 17.00 น. (ในช่วงฤดูหนาว) ค่าเข้าชมคนละ 6.50 ยูโร 



โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco)โบสถ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเวนิสแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่นักบุญมาร์ค ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิส ในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ และถูกประหารชีวิต ก่อนที่ชาวเวนิสจะไปนำศพกลับมาเก็บไว้ที่โบสถ์ ซานมาร์โคแห่งนี้ จุดเด่นของโบสถ์ที่ซานมาร์โคอยู่ที่การมีโดมถึง 5 โดม ได้รับการตกแต่งด้วยศิลปะที่
แตกต่างกัน ทางด้านหน้าได้รับการประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญมาร์ค และรูปปั้นม้าบรอนซ์ 4 ตัว ซึ่งว่ากันว่าขโมยมาจากกรุงคอนสแตนติโนเปิล ส่วนภายในโบสถ์เป็นที่เก็บรักษาศพของนักบุญมาร์ค จุดที่น่าสนใจอยู่ที่เพดาน กำแพง และพื้นซึ่งตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีทอง ครอบคลุมระยะกว่า 4,000 ตารางเมตร เป็นเรื่องราวการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของนักบุญมาร์คและเรื่องราวในพระคัมภีร์ นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังมีพิพิธภัณฑ์ อยู่ด้วย ซึ่งจัดแสดงม้าบรอนซ์ กระเบื้องโมเสค บันทึกเรื่องราวต่างๆ สมัยยุคกลาง รวมทั้งวัตถุโบราณอื่นๆ 
มากมาย เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 9.45 - 17.00น. ส่วนวันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชมเวลา 
14.00 - 17.00น.ไม่เสียค่าเข้าชมถ้าเข้าเฉพาะโบสถ์ แต่ถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์ในนั้นจะเสียค่าเข้าแตกต่างกันไป





จตุรัสเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แล้วที่เด่นๆ อีกอย่างคือ นกพิราบเยอะมาก

ว่ากันว่าห้ามให้อาหารนก แต่เราเห็นนักท่องเที่ยวให้เยอะมากนะ
ลืมบอกไปอย่าง ถ้าจะเข้าไปชมโบสถ์ซานมาร์โค ต้องฝากกระเป๋าก่อนค่ะ เดินเลี้ยวขวาเข้าไปจะมีที่ฝากกระเป๋าฟรี ตรงข้ามกันเป็นร้านขาย กาแฟ กับ ไอศครีม ราคาไม่แพงเหมือนที่อื่นด้วยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น