หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

CARNIVAL OF VENICE

งานเทศกาลในเมืองเวนิสนั้นที่มีมาตั้งแต่ปี 1268  แต่การเฉลิมฉลองโดยมีสวมหน้ากากรวมถึงแต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างอลังการเพิ่งจะมีขึ้นในเกือบสองร้อยปีให้หลัง เมื่อช่างทำหน้ากากหรือ “mascareri” ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1436 สมัยก่อนเวลาคนชั้นสูงจะออกไปเที่ยว จะใส่หน้ากากพรางไม่ให้ใครจำได้ เพราะป้องกันการนินทา ว่าร้าย เพราะบางที สนุกจนลืมตัว

แต่เมื่อพวกออสเตรียเข้ามายึดครอง เวนิสในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ผู้คนไม่ได้รับ


อนุญาตให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกห้ามจนกระทั้ง


ถูกฟื้นมาใหม่ในปี พ.ศ.1979



วันนี้เป็นวันแรกที่งานเริ่ม แต่เป็นวันที่เรากลับพอดี ก็ยังมีภาพมาฝากนิดหนึ่งค่ะ
ตามร้านค้าทั่วเมืองจะขาย หน้ากาก ตั้งแต่ ราคา ไม่กี่ยูโร จนเป็น ร้อยกว่ายูโร แพงมาก




อันนี้เป็นแก้วเป่า ของแถมค่ะ
















วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Venice part 2

โห ออกจากที่พักต้องวิ่งกลับไปใส่เสื้อเพิ่ม หนาวมาก ลมอย่างแรก วันนี้ออกกันสายนิดหนึ่ง วันนี้จะพาเดินทาง อคาเดเมีย แล้วเลาะไปเรื่อย จนถึงสถานีรถไฟเลยนะจ๊ะ แต่ชื่อจำได้ไม่หมดนะค่ะ









วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Sweet around

เดินกันจนเย็น เจอนกจูบกันหวานมะ







สะพานซิงห์ (Bridge of Sighs, Ponte dei Sospiri)

สะพานซิงห์ (Bridge of Sighs, Ponte dei Sospiri)

สะพานซิงห์เป็นสะพานเก่าแก่ที่เชื่อมต่อระหว่างวังดูคาเลกับคุกเก่า เป็นเส้นทางลำเลียงนักโทษเข้าสู่ตัวคุก ออกแบบโดย Antoni Contino ในปี ค.ศ.1602 สร้างมาจากหินปูนสีขาว มีช่องหน้าต่างให้มองออกมาได้ เพื่อให้นักโทษได้ชมความสวยงามของท้องฟ้า และทะเลแห่งเวนิสเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต โดยชื่อ Lord Byron ได้ตั้งชื่อว่าสะพานซิงห์ (Sigh) ในศตวรรษที่ 19 เนื่องมาจากนักโทษจะได้ถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายที่สะพานนี้เอง