หน้าเว็บ

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

IN LA LAKE

In La Lake

ทะเลสาบอินเล  เป็นทะเลสาบน้ำจืดตั้งอยู่ในรัฐฉาน อยู่ห่างจากเมืองตองยีประมาณ 25 กิโลเมตร ในประเทศพม่า เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของพม่า
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า ชาวอินทา (Intha) ชนเผ่านี้อาศัยอยู่ในทะเลสาบอินเลมานานนับร้อยปีแล้ว โดยใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการทำการเกษตรบนเกาะวัชพืชที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองกลางลำน้ำในทะเลสาบ


รถจากย่างกุ้งมาถึงท่ารถ ประมาณ ตี 4 เราลงแบบง่วง ก็มีคนมาติดต่อเรื่องลดที่จะเข้าไปเมือง ยองชเว เมืองท่า ก่อนจะเข้าอินเล พอดีเขาบอกว่า มีคนรอแชร์แท็กซี่อยู่เลยเข้าไปคุยด้วย ลุง กับ ป้า เป็นชาวฝรั่งเศล เราคุยไม่ได้ เลยเงียบ ปล่อยผู้รู้ให้เขาคุยกัน พอเข้าไปแล้ว จ่ายคนละ 10 ดอลล่าห์ ค่าเข้าอินเล
เช้ามืดวันนี้ ที่พักเต็มไปหมดเลย จนมาได้ที่สุดท้าย ชื่อบิ๊กโดม ราคา 16 เหรียญ พอใจมากใกล้ท่าเรือเลย
เป็นส่วนตัวดีมาก ส่วนลุงป้า เลือกพักที่แรก เจ้าของเดียวกัน แต่อยู่คนละฝั่ง
วันแรกไปดูรอบๆ ดีกว่า ชอบอินเล เพราะอากาศดีกว่าย่างกุ้งมาก


อาหารเช้าที่โรงแรม

พระบัวเข็ม ที่ วัดผ่องดออู
พระบัวเข็ม” ลักษณะสำคัญนั้น เป็นพระที่แกะขึ้นจากกิ่งไม้พระศรีมหาโพธิ์ ลงรักปิดทองเป็นรูปพระเถระนั่งก้มหน้ามีใบบัวคลุมศีรษะ และมีเข็มหมุดปักอยู่ตามตัวหลายแห่ง นั่งอยู่บนฐานดอกบัวหงาย ดอกบัวคว่ำรองรับ เมื่อหงายใต้ฐานดูจะพบลายลักษณ์ปั้นทรงนูนต่ำรูปดอกบัวใบบัวและรูปปลา
ที่เรียกว่า “พระบัวเข็ม” คือ รูปพระอุปคุตเถระเรื่องราวของพระบัวเข็มไม่ค่อยปรากฏเป็นที่ทราบกันโดยทั่ว ไปในเมืองไทย เหมือนพระพุทธรูปองค์อื่นๆ เพราะพระบัวเข็มเข้ามาแพร่หลายในประเทศไทยเมื่อปลายสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งนี้ เพราะเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงผนวช ทรงสนิทสนมกับพระภิกษุชาวมอญมาก โดยทรงศึกษาประวัติพระพุทธศาสนา และพระธรรมวินัย จากพระภิกษุชาวมอญทรงแตกฉานในพระธรรมวินัยทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และด้วยการที่ทรงติดต่อคุ้นเคยกับพระภิกษุชาวมอญมาโดยตลอด
เมื่อพระ ภิกษุชาวมอญเข้าเฝ้าที่วัดบวรนิเวศฯ ครั้งใด ก็มักนำพระบัวเข็มเข้ามาถวายอยู่เนืองๆ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบประวัติความเป็นมาของพระบัวเข็ม มากกว่าบุคคลใดในสมัยนั้น จนถึงทรงยอมรับพระบัวเข็มเข้าในพระราชพิธีพิรุณศาสตร์ (พิธีขอฝน) พระบัวเข็มนี้ถือกันว่าเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร ในทางชนะศัตรูหมู่มาร และในทางบังเกิดความอุดมสมบูรณ์ ลาภสักการะ ความร่ำรวยอย่างยิ่งแก่ผู้เคารพบูชาซึ่งรูปลักษณะการปฏิบัติบูชาก็แปลกแตก ต่างจากพระอื่น
การสร้างรูปเคารพของพระบัวเข็มนั้นมีรูปลักษณะที่แตก ต่างกันอยู่มากตามแต่ ผู้สร้างจะคิดประดิษฐ์รูปลักษณะตามประวัติแล้ว จัดสร้างขึ้นในอากัปกิริยาตามอิทธิปาฏิหาริย์ของพระอุปคุตเหลือที่จะพรรณนา ได้ เช่นเดียวกับการสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ ทั่วไปเหมือนกัน เท่าที่สังเกตพระบัวเข็มในประเทศไทย แบ่งออกได้ 2 แบบ คือแบบมอญแบบหนึ่ง และแบบพม่าแบบหนึ่ง พระบัวเข็มทั้งสองแบบนี้คงอาศัยรูปแบบของพระบัวเข็มในอินเดียเป็นหลักสำคัญ แต่มาแก้ไขเปลี่ยนแปลงขึ้นตามความนิยมในประเทศมอญและพม่า
“พระบัว เข็ม” เป็นหนึ่งในห้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าที่ชาวพุทธนิยมเดินทางไปกราบไหว้ ขอพร ประดิษฐานอยู่ที่วัดผ่องดออู บริเวณริมทะเลสาบอินเล ประเทศพม่า ชาวพุทธไทยไปกราบไหว้ขอพรแล้วประสบความสำเร็จ จึงขออนุญาตทางวัดนี้ เพื่อสร้างองค์พระบัวเข็มจำลองมาประดิษฐานที่เมืองไทย
ตามความเชื่อ ของชาวพม่า การสร้างพระบัวเข็มจำลอง จะต้องทำจากต้นโพธิ์ที่มีอายุ 100 ปี ขึ้นไป ซึ่งยืนต้นแห้งเองไปตามธรรมชาติ เมื่อสร้างเสร็จจะนำพระบัวเข็ม ประดิษฐานบนเรือการะเวก ซึ่งมีรูปร่างเหมือนนกการะเวก ล่องเรือไปกลางทะเลสาบอินเล โดยเลือกวันพระขึ้น 15 ค่ำ ประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดา พุทธาภิเษก ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์พม่าและพระสงฆ์ไทย เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา
ไพศาล คุนผลิน และญาติธรรม พร้อมผู้บริหาร บริษัทไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด เดินทางไปประเทศพม่า มีจิตศรัทธาสร้าง “พระบัวเข็ม ชนะมาร บันดาลโชค” พร้อมประกอบพิธีพุทธาภิเษก แล้วนำมาถวายวัดเทวราชกุญชร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 โดย พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา พุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้ง และนำพระบัวเข็มประดิษฐานถาวรไว้ที่มณฑปจัตุรมุข วัดเทวราชกุญชร ให้สาธุชนได้สักการบูชา เพื่อความสิริมงคล มีชัยชนะศัตรูหมู่มาร และบังเกิดความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยด้วยลาภสักการะสืบไป

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ํYangon 1 Bogyoke Aung San

ตื่นมาอีกวัน วันนี้มีเวลาครึ่งวัน ตอนเช้าหลังรับประทานอาหารเลยไป ตลาด

เดินมาทางโรงแรมRoyal แต่คราวนี้ เราเดินตรงอย่างเดียว ก้จะเจอป้ายนี้

เราเดินจนเจอวัดหนึ่ง เสีย ค่าผ่าน 1000 จ๊าด


รอบๆ จะเป็นพระพุทธรูป สามารถเดินข้ามสะพานลอยมาได้เลย
เราเดินจนรอบมีเด็กผุ้ชายเดินตามขายpost card น้องพูด ภาษาไทยได้เยอะพอสมควร แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ
ตลาดbogyoke จะขายของจำพวกจิวเวอร์รี่เยอะมาก เลยไม่ได้ดึงดูดเราเท่าไหร่ แอบถามราคาเป็นบางชิ้น แต่ไม่มีงบประมาณในการซื้อ 555
เสร็จจากทานอาหารที่นั่นแล้ว เราก็จับแท็กซี่ไปโรงแรม 1500 จ๊าด แล้วเรียกต่อไป บขส 7000 จ๊าด รอขึ้นรถไปอินเลย์

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

SHWE DAGON PAGODA

เจดีย์ชเวดากองพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้นตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 โดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีพี่น้องพ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์จึงประทานพระเกศามา 8 เส้น โดยนำมาบรรจุอยู่ที่พระธาตุเพียงสองเส้นเท่านั้นพระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระเจ้าพินยาอู ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตร ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 แผ่นดินไหวเล็กๆน้อยๆ เรื่อยมาทำให้พระเจดีย์ได้รับความเสียหาย และเมื่อปี พ.ศ. 2311 (ในสมัยกรุงธนบุรี) ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก ทำให้ยอดของพระเจดีย์หักถล่มลงมา


รูปแบบการก่อสร้างบนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะชื้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 76 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ดพิธีผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้งเมื่อมาถึงทางเข้า ให้เดินตามเข็มนาฬิกา ขึ้นอยู่กับดวงวันเกิดของผู้เข้าที่จะดูตาม 12 นักษัตร รอบๆพระเจดีย์ก็มีศาลเจ้าเล็กๆอยู่รายรอบ

อ้างอิงจาก วิถีพิเดีย
หลังจากที่เดินออกมาออกขายตั๋วรถ เราเดินข้ามฝากแล้วเดินเลี้ยวขวา ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางที่เดินกลับไปโรงแรม royal
เดินตรงจนมาถึงทางแยกที่มีตลาดขายของริมทางก็เลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ
ระหว่างทาง มีขนมครกใส่ไข่นกกะทาด้วย อยากลอง แต่ท้องยังอิ่ม
เดินจนสุด ระแวกนี้จะเป็นร้านไอศรีม ร้านมินิมาทมากมาย เลย
เดินไปจนสุดถนนอีกมุมหนึ่งแล้วเลี้ยวขวา เดินไปจนเจอป้ายนี้แหละค่ะ เราก็เดินตรงอย่างเดิยว อยากจะบอกว่า เดินเยอะ และไกลมาก แต่เดินได้ เพราะมีอะไรๆให้ดูมากมาย
ค่าเข้าชม คนละ 5 เหรียญ รวมทุกอย่าง มาที่นี่ คิดว่ามาเที่ยวไทย มองไปทางไหนก็มีแต่คนไทยค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะมาเป็นกรุ๊ป หรือไม่ก็เป็นครอบครัว 
ถามไกด์ท้องถิ่น แอบถามคนพม่าบ้าง ว่า ปีเราอยู่ตรงไหน ชอบคนพม่านะ ยังหิ้วปิ่นโตข้าวกัน นุ่งผ้าถุงด้วย สวยเชียว แต่รูปไม่ได้ไว้
เห็นหิ้วปิ่นโตแล้วนึกถึงตัวเอง ตอนยังเป็นเด็ก หิ้วปิ่นโตไปโรงเรียน
อ๋อ เกือบลืม ตอนที่พึ่งขึ้น เจอเสียงทักทาย where are you come from?you from thai?yes,i'm thai.sawasdee khap คุณชื่อ อะไร บลาๆ
ไอ้เราก็พูดด้วยเป็นอย่างดี คุณลุงบอกว่า รอดูเพชรนะ โน่น นี่ นั่น แล้วบอกว่า อันนี้ไม่สวย อีกอัน สวยกว่า แต่เราบอกว่า จะเดินวนดูให้ทั่วก่อน คุณลุงก็บอกว่า อีกทีหนึ่ง สวยมากกกก เราก็ก้าวเท้าตามแปปหยึ่ง นึกขึ้นได้จึงบอกว่า อยุ่ตรงไหนหล่ะบอกมา เดี๋ยวไปเอง จะเดินดูก่อนแกก็บอก no need no need เรานึกขึ้นได้อ้าวลุงนี่ เป็นไกด์นี่ ถ้าไปต้องเสียตังค์แน่ ไม่อยากเสียตังค์อ่ะ
เลยบอกว่า ไม่ไป แกเลยโมโห หันไปพุดกับแฟนเรา ตื้อแฟนเรา เพราะเราไม่คล้อยตามแกแหละ เราเลย พูดดังๆไม่มีมารยาท ว่า I don't want lol
แล้วพูดขอบคุณแกก่อนจะเดินหนี เกือบไปแล้ว แฟนมาบอกทีหลังว่า แกบอกว่า young boy don't trun back.แหม ตาลุง อันนี้เล่าขำๆ เดินจนเหมื่อย เลย จะกลับแล้ว ไปหม่ำข้าวดีกว่า

[แก้]

[แก้]

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

YANGON

Birmanie..
Visa
Same Day Visa 1260 Thb.
One Day Visa 1026 Thb
Two Day Visa 810  Thb.
we had make a visa at the embassy in bangkok.it very easy more than do with agency.open 9 am and you can get it same day on 3.30 pm-4.30 pm
we catch taxi from khaosan to donmuang airport to yangon.taxi price including express way around 260 bath.

เราถึงสนามบิน ย่างกุ้ง ประมาณ 17.30 น โดยสายการบินแอร์เอเซีย อยากให้เพื่อนๆที่ไป แลกเงินจากสนามบินไว้ก็ดีนะ เพราะตอนแรกเราแลกน้อยมาก เพราะคิดว่า หาแลกที่อื่นเรทจะดีกว่าหรือเยอะกว่า แต่ถึงเวลาจริงๆแล้ว ราคาต่างกันไม่เยอะ แล้วที่สำคัญ แบงค์ดอลล่าต้องใหม่มากๆ บางทีขนาดใหม่แล้วยังไม่รับเลย จากสนามบิน เรานั่งแท็กซี่มา 7000 จ๊าด 1 ดอลล่า แลกได้ 848 จ๊าด 1 ดอลล่า ตอนที่ซื้อ 30 บาท หน่อยๆ
สนามบินไกลพอควร แถมรถติดด้วย เราโทรจองโรงแรมตอนอยู่กรุงเทพ ตอนที่โทรจองเขาบอกว่า 25 ดอลล่า เราไปถึง ค่ำแล้ว เลยถามราคาห้อง ผลสรุปแกบอกว่า 20 ดอลล่า ตานี้ แกเห็นเราทำหน้างง แกคงนึกได้เลยบอกว่าของยูอ่ะ 22 ดอลล่า ห้อง 20 ดอลล่า หมด แล้ว 555
white house hotel ห้องพักไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาหารเช้าก็ดี และมีหลากหลายให้เลือก เจ้าของเฟรนลี่ดีมาก (คุณพ่อ) มาเดินดูบริเวณรอบๆกันดีกว่า



ทางขึ้นไปรับประทานอาหารเช้า


อาหารเช้า หรือ อาหาร ตลอดวัน มีขายอยู่ทั่วไป ราคา 200-300 จ๊าด
ถนนเส้นนี้เดินตัดออกมาจาก kon zay dan street.ก้จะเจอย่านคล้าย ย่าน ลิตเติ้ลอินเดียเลย ไม่รุ้เข้าใจอะไรผิดมั้ย แต่เหมือนมากเลยค่ะ สนุกสนาน ผู้คนพลุกผล่านมาก
เรา เดินเลี้ยว เผื่อที่จะไปย่าน ไชน่าทาวน์ ตรง เรื่อยๆ จะเจอห้างสรรพสินค้า ค่ะ


ตรงนี้เหมือนขายน้ำเย็นเลย ไอเดียเก๋นะ เอาน้ำแข็งก้อนมาทำ ถ้าเป็นที่บ้านเรา จะละลายเร็วมาก แต่จะบอกว่าที่ย่างกุ้งก็ร้อนเช่นกันนะ^-^

แตงโม ชิ้นใหญ่ยักษ์ เราแอบเห็นเขาแบ่งหั่นขาย ชิ้นละ 200 จ๊าด

เคยเห็นหลายๆคน โพส์ไว้ที่พักที่ Central Hotel ,Bogyoke Aung San Rd
เลยแอบตามไปดู สถาณที่หรูหราดูทีค่ะ แต่ขอบอกว่า ที่พัก แพงสำหรับเราที่มีงบน้อย
แต่เราก้ไปได้ที่แลกเงินที่นี่แหละ พอแลกเสร็จให้เดินเลี้ยวขวา แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเดินข้ามทางรถไฟ จะเจอสามแยก ขวามือ จะเป็นที่ขายตั๋วรถทัวร์ไปยังเมืองต่างๆค่ะ ราคาไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
เราเลือกซื้อตั๋วกับคุณผู้หญิงคนนี้ เราว่าเธอพุดจาดี และไม่ยัดเยียดขาย หลังจากที่เดินมาทุกร้านแล้ว
ราคา ตั๋ว ticket to inle lake 19000 jad  not including transfer but if you need transfer then pay extra 2000 per  person.เราซื้อตั๋วแบบไม่รวมราคาส่งที่บขส
ออกมาจาก ซื้อตั๋ว เดินมากิน ก๋วยเตี๋ยวแบบพม่ากันค่ะ ชามละ 300 จ๊าด
พี่คนนี้ยิ้มตลอด สามีก็ใจดี แกบอกว่า เราเหมือนคนพม่ามากกก 555
กินเสร็จไปเยือน เจดีย์ชเวดากอง กันค่ะ






































































































































































































































































































































































































วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

SAPA VIETNAM

SAPA VIETNAM ซาปา มิใช่ ไกล เกิน ฝัน
เรานั่งรถไฟจากฮานอย ได้เที่ยวกลางคืน เป็นตู้นอน รถไฟมาถึงสถานีลาวไช ประมาณ ตี ห้า ที่สถานีมีรถรับจ้างเยอะมาก เราเลือกนั่งรถตู้มากับชาวเวียดนาม ใช้เวลา สามสิบนาทีก้มาถึง ซาปา
มีนายหน้านำเสนอห้องพัก เนื่องจากเช้าตรุ่ เราเลยเลือกพักที่นี่หนึ่งคืน มาดุรอบๆซาปาดีกว่า



Vietnam

Lamphaya floating Market

Lamphaya floating Market

ตลาดน้ำวัดลำพญา(  Lamphaya Floating Market)
Against the current glimpse the past  life reoealed people of siam on the river living history of those who come before the thai water flowers on weaving the fibers of culture


วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Bangluang 122 year.

ตลาดบางหลวง
ตลาดบางหลวงเป็นตลาดเก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ.221


วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

Scenery Farm

อำเภอสวนผึ้งแหล่งท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งคือ ซีนเนอรี่ฟาร์ม เป็นที่นิยมอีกที่ของนักท่องเที่ยวชาวไทยวันที่ฉันไปตอนเย็นระหว่างทางยังมีนักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปเยอะมากเหมือนกัน ฉันขับรถไปซีนารี่ประมาณ แปดกิโลจากที่พัก

ระหว่างทางด้วยมอเตอร์ไซด์ อากาศดีมากๆ
ทางหลวงลาดยางแสนสวยเลยจากทางแยกมาไม่เท่าไหร่ จากนั้นจะเป็นทางอย่างที่เห็น สลับกันเป็นระยะๆ
สองข้างทางเป็นร้านขายของที่ระลึก ก็จำพวกตุ๊กตาแกะ หรือ ไวน์
full moon wine เห็นขวดเล็กๆแต่ว่าเล่นเอาเมาเหมือนกันนะเนี่ย
ถ่ายไกลๆ ช่วงเย็น ก่อนเข้าไปเลี้ยงแกะ ค่าเข้าชมเสีย 40 บาท
เอาหางตั๋วไปแลกได้หญ้ามาหนึ่งกำมือเล็กๆ
หลังจากนั้นเจ้าแกะน้อยจะเดินมาหาคุณเอง ฮ่าๆๆ
ตัวนี้น่าจะเป็นลูกแกะตัวเล็กสุด
ทุกตัวที่หูจะมีสัญลักษณ์ อย่างนี้
รถตู้คันนี้มีไว้ให้ถ่ายรูป
กิจกรรมและเกมส์ต่างๆ


ร้านขายของที่ระลึก
วันนี้เราจบด้วยการซื้อของนิดหน่อยเป็นของฝากก่อนจะขี่รถกลับที่พัก ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปกับเพื่อน หรือคนรัก แต่สำหรับเราขอบาย คราวหน้าจะไปไหน ติดตามกันต่อไปนะค่ะ